โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเพิ่มพูนทักษะทางคลินิกอย่างเป็นระบบ (internship program)
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ครั้งที่ 3
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นแหล่งผลิตบัณฑิตสัตวแพทย์ที่สำคัญของภาคใต้ ซึ่งแนวทางการผลิตบัณฑิตนั้นเป็นไปตามแนวทางมาตรฐานวิชาชีพของสัตวแพทยสภาและเกณฑ์คุณภาพการศึกษา เพื่อการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (EdPEx) นอกจากนี้คณะสัตวแพทยศาสตร์ ยังเป็นแหล่งให้บริการด้านสุขภาพในสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนตามมาตรฐานสถานพยาบาลสัตว์ในประเทศไทย (TAHSA) อย่างไรก็ตามบริบทในปัจจุบัน เจ้าของสัตว์มีความต้องการการได้รับการบริการที่ได้มาตรฐานมากขึ้นและถูกต้องตามหลักวิชาชีพรวมถึงการพัฒนาของระบบการศึกษาต่อเนื่องภายหลัง การจบการศึกษาในหลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิตของสัตวแพทยสภา คณะสัตวแพทยศาสตร์จึงได้ริเริ่มโครงการฝึกอบรม หลักสูตรเพิ่มพูนทักษะทางคลินิกอย่างเป็นระบบ (internship program) สำหรับสัตวแพทย์ที่มีความสนใจด้านเวชศาสตร์สำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน โดยหลักสูตรการฝึกอบรมในครั้งนี้ได้นำรูปแบบกิจกรรมบางส่วนจากหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) เช่นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถเข้าเสวนาเนื้อหาทางวิชาการร่วมกับนักศึกษาและอาจารย์ การมีระบบอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการอบรมสร้างผลงานทางวิชาการในระดับชาติหรือระดับนานาชาติ อันจะส่งผลให้คณะฯ มีแนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) ในหลักสูตรอื่น ๆ ได้ และเพื่อให้ผู้ผ่านการอบรมเกิดความมั่นใจและมีความเชี่ยวชาญในการประกอบวิชาชีพ ภายใต้การอบรมทั้งภาควิชาการ พัฒนาทักษะผ่านการทำงานร่วมกับคณาจารย์และนายสัตวแพทย์ประจำที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ผ่านการอบรมเป็นผู้มีความสามารถในการให้บริการด้านสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนและปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถ
การคัดเลือกผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยคณะกรรมการคัดเลือกที่แต่งตั้งโดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
แผนกศัลยกรรมและวิสัญญี
– Castration
– Ovariohysterectomy
– Dental scaling and extraction
– Generalized anesthesia
– Thoracocentesis
– Abdominocentesis
– Cystocentesis
– Urinary catheterization
เข้าฝึกอบรมจะต้องสามารถทำหัตถการข้างต้นทั้งหมดได้อย่างชำนาญ พร้อมทั้งมีการบันทึกลงแฟ้มสะสมการฝึกหัตถการดังกล่าว
พร้อมลายมือชื่อรับรองการฝึกปฏิบัติจาก คณาจารย์หรือสัตวแพทย์ ที่ได้รับการมอบหมาย
3. การเข้าร่วมสัมมนาและการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการในรูปแบบต่างๆ ดังต่อไปนี้
3.1 Journal club/Morbidity-Mortality (MM)
conference ผู้เข้าฝึกอบรมจะต้องเตรียมนำเสนอบทความทางวิชาการจำนวน 4 ครั้ง ตลอดหลักสูตร ในรูปแบบ case presentation แบบ onsite หรือ online ตามตาราง Grand round ภายใต้วิชาคลินิกปฏิบัติสัตว์เล็ก
3.2) ผู้เข้าฝึกอบรมจะต้องจัดทำ case report ตามรูปแบบการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ จำนวน 2 เรื่อง ตลอดหลักสูตร โดยต้องมีอย่างน้อย 1 เรื่อง ที่เข้าร่วมการนำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ซึ่งผู้เข้าฝึกอบรมมีหน้าที่ส่ง case report ที่เสร็จสมบูรณ์ให้แก่อาจารย์ผู้ดูแลโครงการ ตามกำหนดการ ดังนี้
3.3 ผู้เข้าฝึกอบรมจะต้องจัดเตรียมสื่อ ซึ่งเกี่ยวกับการดูแลรักษาสัตว์ป่วย เพื่อเผยแพร่ทาง social network ของคณะสัตวแพทย์ จำนวน 4 เรื่อง ทุก 3 เดือนนับจากวันที่เริ่มปฏิบัติงาน
มีการเขียนเวชระเบียน / IPD / Surgical Report ตามมาตรฐาน Problem-Oriented Veterinary medical record (POVMR) ที่ครอบคลุม ครบถ้วน สมบูรณ์
– โรคติดเชื้อในสุนัข
– โรคติดเชื้อในแมว
– โรคตา
– โรคมะเร็ง
– โรคหัวใจ
– โรคระบบทางเดินหายใจ
– โรคระบบต่อมไร้ท่อ
– โรคทางทันตกรรม
– โรคไตและระบบขับถ่ายปัสสาวะ
– โรคผิวหนัง (ปรสิตภายนอก โรคผิวหนังอักเสบจากติดเชื้อแบคทีเรีย โรคเชื้อราที่ผิวหนังและ โรคภูมิแพ้ที่ผิวหนัง)
– โรคกระดูก และข้อ
– โรคทางระบบทางเดินอาหาร
– โรคทางระบบประสาท
หรือมีจำนวนสัตว์ป่วยทางอายุรกรรมไม่น้อยกว่า 300 cases ตลอดหลักสูตร
2. แผนกสัตว์ป่วยฉุกเฉิน แผนกสัตว์ป่วยใน และสัตว์ป่วยวิกฤต นายสัตวแพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีหน้าที่ประเมินสัตว์ป่วยในภาวะฉุกเฉิน ดำเนินการควบคุมอาการป่วย ประเมินสภาวะในกรณีที่ต้องส่งต่อเข้ารับ การรักษาที่หน่วยสัตว์ป่วยวิกฤต ตลอดจนวางแผนการวินิจฉัย รักษา ติดตามอาการ และให้ข้อมูลแก่เจ้าของสัตว์ป่วยที่มาด้วยภาวะวิกฤต/ฉุกเฉิน ดังนี้
– ภาวะวิกฤตระบบเลือด และน้ำเหลือง
– ภาวะไตวายเฉียบพลัน
– ภาวะวิกฤต/เบาหวาน
– ภาวะวิกฤตของโรคระบบประสาท
– ภาวะวิกฤตของโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
– ภาวะวิกฤตของโรคระบบทางเดินหายใจ
– ภาวะวิกฤตของโรคระบบสืบพันธุ์
– ภาวะวิกฤตของโรคกระดูก และข้อ
– ภาวะวิกฤตจากการติดเชื้อ
– ภาวะวิกฤตระบบทางเดินอาหาร
รวมสัตว์ป่วยวิกฤตฉุกเฉินไม่น้อยกว่า 60 cases ตลอดหลักสูตร
4.3 ศัลยกรรม นายสัตวแพทย์ต้องเข้ารับการฝึกอบรมด้านการทำศัลยกรรม ผู้ช่วยศัลยกรรมหรือ ฝึกปฏิบัติด้านวิสัญญีวิทยา
ทางสัตวแพทย์ ตลอดจนดูแลสัตว์ภายหลังการวางยาสลบจนฟื้นสลบโดยมีรายละเอียดดังนี้
– การวางยาสลบในสัตว์ป่วยที่มีระดับความเสี่ยง ASA 1
– การวางยาสลบในสัตว์ป่วยที่มีระดับความเสี่ยง ASA มากกว่า 1
– วางแผนการให้ยาระงับปวด ก่อน ระหว่าง และหลังการผ่าตัด
– ทำหมันสุนัขเพศเมีย
– ทำหมันสุนัขเพศผู้
– ทำหมันแมวเพศเมีย
– ทำหมันแมวเพศผู้
– ขูดหินปูนและถอนฟัน
– ศัลยกรรมตามระบบอื่น
รวมจำนวนสัตว์ป่วยด้านศัลยกรรมไม่น้อยกว่า 20 cases ตลอดหลักสูตร อย่างไรก็ตามนายสัตวแพทย์จะเริ่มปฏิบัติงานทาง
ด้านศัลยกรรมเมื่อผ่านการประเมินงานที่ 6 เดือน หรือ เสร็จสิ้น Grand round ครั้งที่ 2
มีเกณฑ์การประเมินแบบ “ผ่าน” และ “ไม่ผ่าน” ดังนี้
1. เกณฑ์การประเมินด้านระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องปฏิบัติงานครบทุกหน่วยตามที่กำหนด และมีระยะเวลาการฝึกปฏิบัติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาที่กำหนด จึงถือว่า “ผ่าน” ถ้าปฏิบัติงานในหน่วยใดไม่ครบเกณฑ์ให้ถือว่า “ไม่ผ่าน” ในหน่วยนั้น ๆ โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีสิทธิ์ในการลาไม่เกินกว่าขอบเขตตามประกาศโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ มอ. 117.3/65-021 เรื่อง ระเบียบปฏิบัติงานสำหรับพิจารณาเพิ่มค่าจ้าง (ขาด-ลา-มาสาย) ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565
2. เกณฑ์ประเมินด้านทักษะและเจตคติ นายสัตวแพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะถูกประเมินผล
ทางด้านทักษะ และเจตคติในทุกหน่วยที่ฝึกปฏิบัติโดยต้องมีผลการประเมิน “ผ่าน” ในแต่ละหน่วยที่ฝึกปฏิบัติ
อนึ่งการประเมินผลทั้งด้านเวลา และทักษะ/เจตคติ จะทำการประเมินทันทีที่ผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติครบ ในแต่ละหน่วย หากผลประเมินด้านเวลา “ไม่ผ่าน” อาจจะแก้ไขปรับปรุงโดยให้ปฏิบัติงานเพิ่มเติม ซึ่งต้องแจ้งผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนการประเมินผลด้านทักษะ และเจตคติสามารถให้โอกาสแก้ไขปรับปรุงตามขั้นตอนดังนี้
3.เกณฑ์ประเมินด้านการนำเสนอทางวิชาการ การประเมินผลทางวิชาการจะมีการประเมินผลผ่านการให้คะแนนการนำเสนอใน Grand round ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยมีเกณฑ์ผ่านอยู่ที่ 60% หากไม่ผ่านจะประเมินผู้เข้ารับการฝึกอบรมโดยบุคลากรโรงพยาบาลสัตว์ การไม่ผ่านการประเมิน ใน Grand round เกิน 1 ครั้ง ทางผู้ดูแลโครงการจะพิจารณายุติการฝึกอบรมในลำดับถัดไป
4.เกณฑ์ประเมินด้านการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ เป็นการนำเสนอ case report ทั้งสองเรื่อง ในการนำเสนอ research proposal, final report หรือ การนำเสนออื่นใดภายใต้รายวิชาของคณะสัตวแพทยศาสตร์
ประกาศรับสมัครสัตวแพทย์เข้าร่วมโครงการ 15 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2566
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 28 กุมภาพันธ์ 2566
สอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 13-24 มีนาคม 2566
ประกาศผลการสอบคัดเลือก 31 มีนาคม 2566
ปฐมนิเทศ ระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2566
เริ่มปฏิบัติงาน 1 มิถุนายน 2566 – 31 พฤษภาคม 2567
ลงทะเบียนและชำระค่าลงทะเบียน ภายใน 30 มิถุนายน 2566
ทั้งหมด 3 อัตรา
17,900 บาท